วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

#ปีใหม่เที่ยวไหนดี รวมสถานที่ท่องเที่ยวต้อนรับปีใหม่#


"ปีใหม่" มีวันหยุดยาว ๆ หนุ่ม ๆ สาว ๆ คงวางแผนออกเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามจังหวัดต่าง ๆ หรือไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ก็มีอีกหลายคนและหลายครอบครัวที่ยังไม่รู้ว่า "ปีใหม่เที่ยวไหนดี" เพราะในประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย จะไปสัมผัสอากาศหนาว ๆ ปีนเขา ขึ้นดอย ลงใต้เล่นน้ำทะเลสวย ๆ ใส ๆ หรือจะไปดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์วันวานของอดีตกาลไว้ได้อย่างดีเยี่ยมก็มีเยอะ ดังนั้น กระปุกท่องเที่ยวเลยจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวปีใหม่ สำหรับคนที่ยังมีคำถามในใจว่า...ปีใหม่เที่ยวไหนดี นั่นแน่ ! อยากรู้แล้วล่ะสิว่าจะมีที่ไหนบ้าง ตามเราไปเที่ยวกันเลยจ้า


ไหว้พระ 9 วัด พระนครศรีอยุธยา

เริ่มต้นที่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ไหว้หลวงพ่อโตหรือซำปอกง เพื่อความสำเร็จโดยเฉพาะในเรื่องของการทำมาค้าขาย ต่อที่ วัดใหญ่ชัยมงคล เพื่อสิริมงคลแก่ชีวิตและมีชัยเหนือทุกสิ่ง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง หลังจากนั้นไปไหว้พระกันที่ วัดธรรมิกราช ชื่นชมความอลังการของวิหารหลวงที่เหลือเพียงซากเสาอิฐ และวัดที่ 4 วัดหน้าพระเมรุ กราบพระพุทธนิมิตรพิชิตมารเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตราธิราชที่สมบูรณ์ งดงามมากที่สุดในปัจจุบัน

จากนั้นไป วัดกษัตราธิราชวรวิหาร มาไหว้พระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งเชื่อกันว่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ก่อนจะไป วัดธรรมาราม ซึ่งเมื่อได้มาไหว้จะมีมงคลด้าน ศีล สมาธิ และปัญญาในการดำเนินชีวิต และ วัดท่าการ้อง มีหลวงพ่อยิ้มที่โด่งดัง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และปรากฏในเรื่องขุนช้างขุนแผน แวะชมความอลังการของวัดไชยวัฒนาราม ความรุ่งเรืองในอดีตที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งกลายเป็นตำนานให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม

สักการะหลวงพ่อดำที่ วัดพุทไธศวรรย์ อยากสมหวังโดยเฉพาะเรื่องของการสอบเข้าทหาร-ตำรวจ ให้มาไหว้วัดนี้ และหากมีลูกหลานเจ็บป่วยให้นำไปถวายเป็นลูกของพระเจ้าอู่ทอง เมื่อหายไข้แล้ว ให้ทำการแก้บนด้วยการบวชถวายเมื่ออายุครบ ปิดท้ายที่ วัดมงคลบพิตร สักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ใกล้ ๆ กัน คือ อุทยานประวัติศาสตร์วัดพระศรีสรรเพชญ์ และดื่มด่ำกรุงเก่ายามเย็น




เที่ยวดอย ขึ้นภู...รับลมเย็น

ดอยอ่างขาง

แม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ปลายสุดของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการเดินทางขึ้นเขาลงเขาอยู่หลายชั่วโมง แต่อ่างขางก็ยังคงเป็นที่เที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะที่สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง ที่นี่มีพืช ผัก ดอกไม้ เมืองหนาวละลานตาให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่สามารถชมทะเลหมอกได้ง่าย และเหมาะกับการปลูกพืชเมืองหนาว อีกทั้งใกล้ ๆ กับสถานีเกษตรโครงการหลวงดอยอ่างขาง ยังมี บ้านคุ้ม หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีชาวบ้านหลากเชื้อชาติอาศัยอยู่ ทั้งไทยใหญ่ พม่า และจีนฮ่อ ภายในหมู่บ้านมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และที่พักบริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย

ปลายฤดูหนาวที่ดอยอ่างขาง มีวิวป่าเปลี่ยนสีที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยให้ชม รวมถึงดอกซากุระเมืองไทยหรือพญาเสือโคร่งที่จะบานตลอดเส้นทางขึ้นและลงดอยอ่างขางก็มีให้ชมอย่างเพลิดเพลิน รวมถึงมีไร่สตรอว์เบอร์รีที่มีให้ชมอย่างใกล้ชิด เรียกว่าเดินเก็บผลจากต้นสด ๆ กันได้เลย สำหรับคนที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และชอบการดูนกเป็นชีวิตจิตใจ ที่ดอยอ่างขางเองก็มีเส้นทางดูนกและเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณด้านหลังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่เผอะสถานีเกษตรดอยอ่างขาง ตลอดทางเดินผ่านป่าเล็ก ๆ และไร่เกษตรของชาวบ้านก็มีนกหลายชนิดให้ชม

ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่กลับขึ้นชื่อว่าเป็นดอยที่เที่ยวง่ายและสะดวกสบายที่สุด เพราะทุกที่สถานที่เที่ยวเด่นถูกเชื่อมต่อด้วยถนนลาดยางอย่างดี มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชมมากมาย ทั้ง น้ำตกแม่ยะ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี, น้ำตกแม่กลาง เป็นอีกหนึ่งน้ำตกสวยที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งปิกนิกพักผ่อน, น้ำตกวชิรธาร น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำตลอดทั้งปี, น้ำตกสิริธาร ตั้งหลบอยู่ในหุบเขาและป่าไม้ดงดิบ มีระเบียงไม้ร่มรื่นสามารถนั่งเล่นและชมวิวน้ำตกได้จากระยะไกล ๆ

ดอยตุง

ดอยตุง เป็นยอดเขาสูง นับเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขานางนอน ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง มีผืนป่าธรรมชาติประมาณ 93,515 ไร่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,630 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในบรรดาถนนขึ้นสู่ดอยต่าง ๆ ในภาคเหนือ ดอยตุงมีถนนที่ดีที่สุดก็ว่าได้ คุณอาจเลือกพักในตัวเมืองเชียงรายแล้วขับรถไปเที่ยวดอยตุงแบบเช้าขึ้น บ่ายลงก็ได้ ที่เที่ยวเด่นบนดอยตุงแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ พระตำหนักดอยตุง พระธาตุดอยตุง และสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ซึ่งอยู่บนเขา 3 ยอดก็ว่าได้

##มีห้องพักใกล้สถานที่ ท่องเที่ยวมาแนะนำกันด้วยค่ะ ##

จังหวัด พระนครศรีอยุธยา

1. บ้านเราสุขใจอพาร์ทเมนท์
110 / 16 หมู่ 6 ถนนโรจนะ ไผ่ลิง พระนครศรีอยุธยา พระนครศรีอยุธยา

ใกล้มหาลัย : โรงเรียนเทคนิคพณิชยการอยุธยา,โรงเรียนไทยอโยธยา
ห้าง : Ampro Mall โลตัส อยุธยาพาร์ค และใกล้สวนอุตสาหกรรมโรจนะ
การเดินทาง : เข้าได้สองทาง ทางเท้าและรถจักรยานยนต์: เข้าทางซอยต้นไทร (ซอยเบลล์), เข้ามาเลี้ยวขวา หลังจากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆ จะเจอทางเข้าอยู่ทางขวามือ ทางรถวิ่ง: เข้าทางซอยข้างธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรจนะ ประมาณ 30 เมตร มีที่จอดรถยนต์ พร้อม รปภ.http://banraosukjai.hong-pak.com/

2. ส.วาสนา เพลส http://sorwasana.hong-pak.com/

3. อินเตอร์เน็ต อพาร์ทเม้นท์ http://manit1455_2.hong-pak.com/

4. Green Mansion http://greenmansion.hong-pak.com/

5. โชคเศรษฐีอพาร์ทเม้นท์ http://chocksettee.hong-pak.com/

########################
จังหวัด เชียงงใหม่

1. เก็จเกวลินเฮาส์ เชียงใหม่ http://dragonchiangmai.hong-pak.com/

2. อันนา เฮาส์ http://annahouse.hong-pak.com/
3. อรอนงค์แมนชั่น http://onanongmantion.hong-pak.com/

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hong-pak.com

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วันคริสต์มาส 25 ธันวาคม

merry christmas
 คืออะไร
วันคริสต์มาส คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก เป็นวันฉลองที่มีความสำคัญ และมีความหมายมากที่สุดวันหนึ่ง เพราะชาวคริสต์ถือว่า พระเยซูมิใช่เป็ แต่เพียงมนุษย์ธรรดาๆ ที่มาเกิดเหมือนเด็กทั่วไป แต่พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าผู้สูงสุด และมีพระธรรมชาติเป็น พระเจ้า และเป็นมนุษย์ในพระองค์เอง การบังเกิดของพระองค์ จึงเป็นเหตุการณ์ พิเศษ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนด้วย
ประวัติการประสูติพระเยซูเจ้า
ในเวลานั้น จักรพรรดิออกัสตัส รับสั่งให้ราษฎรทุกคน ในอาณาจักรโรมัน ไปลงทะเบียนสำมะโน ประชากร โยเซฟและมารีย์ ซึ่งมีครรภ์แก่จึงต้องเดินทางไปยังเมืองเบธเลเฮม อันเป็นเมืองที่กษัตริย์ดาวิดประสูติ พอดีถึงกำหนดที่มารีย์จะคลอดบุตร เธอก็ได้คลอดบุตรชายหัวปี เธอเอาผ้าพันกายพระกุมารแล้ววางไว้ใน รางหญ้า เนื่องจากตามโรงแรมไม่มีที่พักเลย คืนนั้นทูตสวรรค์ของพระเจ้า ปรากฎแก่พวกเลี้ยงแกะ พวกเขาตกใจกลัวมาก แต่ทูตสวรรค์ปลอบพวกเขาว่า "อย่ากลัวไปเลย เพราะเรานำข่าวดีมาบอก คืนนี้เอง ในเมืองของกษัตริย์ ดาวิด มีพระผู้ช่วยให้รอดประสูติ พระองค์นั้นเป็นพระคริสต์พระเป็นเจ้า นี่จะเป็น หลักฐานให้พวกท่านแน่ใจคือ พวกท่านจะพบพระกุมารมีผ้าพันกาย นอนอยู่ในรางหญ้า"
ทันใดนั้น มีทูตสวรรค์อีกมากมาย ร้องเพลง สรรเสริญ พระเจ้าว่า " Gloria in Excelsis Deo ขอเทิด พระเกียรติพระเจ้าผู้สถิตย์ในสวรรค์ชั้นสูงสุด สันติสุขบนพิภพจงเป็นของผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัย

วันคริสต์มาสทำไมจึงฉลองคริสต์มาสวันที่ 25 ธันวาคม
ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ (ลก.2:1-3) บันทึกไว้ว่าพระเยซูเจ้าบังเกิด ในสมัยที่จักรพรรดิซีซ่าร์ออกัสตัส ให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยมีคีรินิอัสเป็นเจ้าครองเมืองซีเรีย ซึ่งในพระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่า เป็นวัน หรือเดือนอะไร แต่นักประวัติศาสตร์ให้เหตุผลว่า ทื่คริสตชน เลือกเอาวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองคริสต์มาส ตั้งแต่ ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นมา เนื่องจาก ในปี ค.ศ. 274 จักรพรรดิเอาเรเลียน ได้กำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลอง วันเกิดของสุริยเทพผู้ทรงพลัง ชาวโรมันฉลองวันนี้อย่างสง่า และถือเสมือนว่าเป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะพระจักรพรรดิก็เปรียบเสมือน ดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์
คริสตชนที่อยู่ในจักรวรรดิ โรมันรู้สึกอึดอัดใจที่จะฉลอง วันเกิดของสุริยเทพตามประเพณีของ ชาวโรมัน จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 330 จึงเริ่มมีการฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการ และอย่างเปิดเผย เนื่องจากก่อนนั้น มีการเบียดเบียนศาสนาอย่างรุนแรง (ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 64-313) ทำให้คริสตชนไม่มีโอกาสฉลองอะไรอย่างเปิดเผย

วันคริสต์มาสความสำคัญของวันคริสต์มาส

คริสต์มาส เป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งในศาสนาคริสต์ มิใช่เป็นวันสำคัญฝ่ายร่างกายจัดงาน รื่นเริงภายนอกเท่านั้น ซึ่งเป็นแต่เพียงเปลือกนอกของการฉลองคริสต์มาส แต่แก่นแท้อยู่ที่ความรัก ของพระเจ้าที่ มีต่อโลกมนุษย์ นั่นคือ พระเจ้าทรงรักมนุษย์ มากจน ถึงกับยอมส่งพระบุตรแต่องค์เดียว ของพระองค์ ให้มาเกิดเป็น มนุษย์ มีเนื้อหนังมังสา ชื่อว่า "เยซู"
การที่พระเจ้าได้ถ่อมองค์และเกียรติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการเป็นทาส ของความชั่ว และบาปต่างๆ นั่นเอง
ดังนั้นความสำคัญของวันคริสต์มาสจึงอยู่ที่การฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อโลกมนุษย์ อย่างเป็นจริง เป็นจัง และเห็นตัวตนในพระเยซูคริสต์ที่มาเกิดเป็นมนุษย์ มากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น

ประวัติวันคริสต์มาส
คริสต์มาส คือการฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า เรา เฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม คำว่า คริสต์มาส เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษ โบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า เพราะการร่วมพิธีมิสซาเป็นประเพณีสำคัญที่สุดที่ชาวคริสต์ ถือปฎิบัติกันในวันคริสต์มาส
คำว่า Christes Maesse พบครั้งแรก ในเอกสารโบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas คำทักทายที่เราได้ฟังบ่อย ๆ ในเทศกาลนี้คือ Merry Christmas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุข และความสงบทางใจ
เพราะฉะนั้นคำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบ ทางใจ
เนื่องใน โอกาสเทศกาลคริสต์มาส ส่วนภาษาไทยใช้อวยพรด้วยประโยคว่า "สุขสันต์วันคริสต์มาส
Merry Christmas "

การร้องเพลงคริสต์มาส
เพลงคริสต์มาสที่เรานิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีเสียงมากได้แก่ Silent Night, Holy Night เป็นภาษาไทยว่า "ราตรีสวัสดิ์ คืนอันศักดิสิทธ์ "
ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวัน คริสต์มาส ของปี ค.ศ. 1818 คุณพ่อ Joseph Mohr เจ้าอากาสวัดที่ Oberndorf ประเทศออสเตรเลีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ คุณพ่อเองตั้งใจจะแต่งเพลงคริสต์มาส หลังจากแต่งเสร็จก็เอาไปให้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ Franz Gruber ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงใส่ทำนองในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดใกล้ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก

วันคริสต์มาส 25 ธันวาคมเทียนและพวงมาลัย
ในสมัยก่อนมีกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในเยอรมัน ได้เอากิ่งไม้มาประกอบเป็นวงกลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้นในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ทุกคนในครอบครัวจะมารวมกัน ดับไฟ แล้วจุดเทียนเล่มหนึ่ง สวด ภาวนาและร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกัน เขาจะทำดังนี้ทุกอาทิตย์จนครบ 4 อาทิตย์ก่อนคริสต์มาส ประเพณีนี้เป็นที่นิยมและแพร่หลายในที่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา
ซึ่งต่อมามีการเพิ่ม โดยเอาพวงมาลัยพร้อมกับเทียนที่จุดไว้ตรงกลาง 1 เล่มไปแขวนไว้ที่หน้าต่างเพื่อช่วย ให้คนที่ผ่านไปมา ได้ระลึกถึงการเตรียมตัวรับวันคริสต์มาสที่ใกล้เข้ามา และพวงมาลัยนั้นยังเป็นสัญลักษณ์ที่คน สมัยโบราณใช้หมายถึงชัยชนะ แต่ในที่นี้หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างครบ บริบูรณ์ตามแผนการณ์ของพระเป็นเจ้า

การทำมิสซาเที่ยงคืน
เมื่อพระสันตะปาปาจูลีอัสที่1 ได้ประกาศให้วันที่ 25 ธันวาคมเป็นฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) แล้วในปี นั้นเองพระองค์และสัตบุรุษได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม ยังถ้ำที่พระเยซูเจ้าประสูติ
พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืน พระสัน ตะปาปาก็ทรงถวายบูชา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พัก เป็นเวลาเช้ามืดราวๆ ตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และสัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ก็ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อ สัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติ ของพระองค์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมี ธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ใน โอกาสวันคริสต์มาสเช่นเดียวกัน

คริสต์มาสซานตาครอส

ตัวจริงของซานตาครอส คือ นักบุญนิโคลัสซึ่งเป็นบาทหลวงในตุรกี ช่วงคริสต์ศตวรรษที่สี่ ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องความใจดี โดยเฉพาะกับเด็กๆ ต่อมาท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วฮอลแลนด์ในชื่อ "ซินเตอร์คลาส" ราวค.ศ.1870 ชาวอเมริกันเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็น"ซานตาคลอส" ตั้งแต่แรกจนถึงค.ศ. 1890
ภาพของซานตาคลอสเป็นชายร่างผอมสูงสวมชุดสีเขียว หรือน้ำตาลสลับแดง เจนนี ไนสตรอม ศิลปินชาวสวีเดน เป็นผู้คิดค้นรูปลักษณ์ของซานตาครอสอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน โดยวาดภาพลงในบัตรอวยพรคริสต์มาส ภาพเหล่านี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เมื่อชาวสวีเดนอีกคนชื่อ แฮดดอน ซันด์บลอม นำภาพวาดของไนสตรอมสวมชุดขาว

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

10 สถานที่รับลมหนาว น่าไปเที่ยวในเมืองไทย



ฤดูหนาวมาถึงเราอีกรอบ ! ทำให้ใครหลายๆ คน อยากออกเดินทางไปกอดสายหมอก โอบลมหนาวกันสักครั้ง ว่าแล้ว สนุก! ท่องเที่ยว ไม่รอช้า คัดสรรแหล่งท่องเที่ยวรับลมหนาวที่ว่ากันสวยสุดยอด บรรยากาศดี และหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้ง รับรองว่าไปแล้วไม่เหงาหัวใจแน่นอน


1.ภูทอก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
ภูทอก จุดชมวิวที่ขึ้นชื่อที่สุดของเชียงคาน จังหวัดเลย ท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนและวิวแม่น้ำโขงได้สุดสายตา โดยเฉพาะช่วงเช้าจะมีทะเลหมอกขาวปกคลุมเกือบทั้งเทือกเขา ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์อย่างเต็มปอด พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนสดชื่น และยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตก เรียกได้ว่า สวยงามไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวใดๆ ในเมืองไทยเลยทีเดียว




2. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ ท้องที่อำเภอวังทอง อำเภอนครไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ มีสภาพธรรมชาติ ทิวทัศน์ และลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแหล่ง เช่น ถ้ำ น้ำตก ทุ่งหญ้าโล่งใหญ่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด

และในฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมากเหมาะแก่การไปท่องเที่ยว พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้สนสองใบ มะม่วงป่า ประดู่ และทุ่งหญ้าที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่มีสนและไม้ดอกขึ้นสลับกันอยู่ สามารถมากางเต็นท์ได้ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทุ่งนางพญาและทุ่งโนนสน แต่ 2 ที่หลังนี้ไม่มีบริการไฟฟ้าและห้องน้ำอยู่กันแบบธรรมชาติล้วนๆ

กิจกรรมที่นิยมมากคือการขี่จักรยานเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆ อุทยานฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร. 0-5526-8019




3.สถานีพัฒนาการเกษตรฯ ภูพยัคฆ์ จังหวัดน่าน

สถานีพัฒนาการเกษตรฯ ภูพยัคฆ์ ตั้งอยู่ใน ต.ขุนน่าน อ. เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ขึ้นบนพื้นที่กว่าแสนไร่ เปิดต้อนรับคนรักธรรมชาติที่อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ มีทัศนียภาพงดงาม มองไปเห็นนาขั้นบันไดเรียงตัวยาวไกลสุดสายตา

กินผักสดปลอดสารพิษ และเดินเที่ยวสวนมัลเบอร์รีที่มีสีสันสวย รสเปรี้ยวอมหวาน ออกผลเป็น 2 ช่วง คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม และช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงมกราคม

ในช่วงหน้าหนาวนี้เอง อากาศจะเย็นสบาย มีหมอกตอนเช้า หากได้มาเก็บมัลเบอร์รีช่วงนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดียิ่งนักท่องเที่ยว




4.ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับท่านใดที่ชอบท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ สัมผัสทะเลหมอกบนยอดภูเขา ชื่นชมความเขียวขจีของพรรณไม้ สูดอากาศบริสุทธิ์ เป็น "จุดชมทะเลหมอก" ที่สวยงามและอลังการอีกแห่งหนึ่งต้องไม่พลาดที่นี่เลย "ภูทับเบิก" จ.เพชรบูรณ์

ที่นี่อากาศเย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆ มองเห็นเป็นทะเลหมอกตัดกับยอดภูสีเขียว เป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสแก่นแท้วิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์

เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำลังมีกระแสความนิยมอยู่ทั่วไป ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน"



5.ดอยหัวแม่คำ จังหวัดเชียงราย
หนึ่งใน Unseen Thailand ที่งดงามราวกับสวรรค์บนดิน ต้องยกนิ้วให้ ดอยหัวแม่คำ จังหวัดเชียงราย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากชื่อเสียงระบือไกลของดอกไม้งามนามว่า "บัวตอง" นั้นจะเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งหุบเขาที่กว้างใหญ่

และยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆ ทั้ง อาข่า ม้ง ลีซอ ลาหู่ ทำให้ได้สัมผัสชีวิตชาวดอยอย่างใกล้ชิด ดอยหัวแม่คำ ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง นอกจากการเดินชมทิวทัศน์ และวิถีชีวิตของชนเผ่าแล้ว

ยังมีวนอุทยานดอยหัวแม่คำ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของดอยหัวแม่คำ ซึ่งควรที่จะตื่นมาตั้งตารอแต่เช้าตรู่ เพราะจะได้พบกับทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ ที่ทอดกายปกคลุมภูเขาน้อยใหญ่สลับเรียงรายกันไปมา ดุจดั่งล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์เลยทีเดียว




6.อุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย
อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีอาณาเขตด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว มีรูปพรรณสันฐานเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูง โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกละอองขาว และป่าอันอุดมสมบูรณ์

มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหน้าผาสูงชัน พื้นที่โดยรอบปกคลุมด้วยป่าสนเขา ทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกับลานหินธรรมชาติ มีอากาศเย็นตลอดปี

โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า "แม่คะนิ้ง" ผู้ที่จะไปพักผ่อนจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมที่จะผจญกับความหนาวเย็น




7.ยอดเขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี

ยอดเขาช้างเผือก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ การขึ้นมามาพิชิตยอดเขาช้างเผือก เป็นอีกหนึ่งทริปในฝันของนักท่องเที่ยว นักถ่ายภาพ นักผจญภัย ที่ต้องหาโอกาสมาสัมผัสกันให้สักครั้ง

หน้าหนาวนี้หากคุณยังไม่มีโปรแกรมในใจที่ไหนเป็นพิเศษ ตามมาพิชิตยอดเขาช้างเผือกด้วยกัน แล้วคุณจะเห็นว่า แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงอย่างภาคกลาง ยังมีอะไรให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจอีกเยอะ ดินแดนแห่งธรรมชาติอัศจรรย์ แดนสวรรค์ตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. สำนักงานกาญจนบุรี โทร.0 3451 1200




8.อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จังหวัดน่าน

ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนจะเดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือในฤดูหนาวนี้ มาสัมผัสอากาศหนาว และชมความงามของทะเลหมอก รวมทั้งร่วมค้นหาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ตำบลยอด อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน

อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนที่มีลักษณะสวยงาม ประกอบไปด้วยแท่งเขาหินปูน และหน้าผาจำนวนมาก จึงทำให้มีสถานที่ที่สามารถมองชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในลักษณะมองมุมสูง และไกลหลายแห่ง ทั้งบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ และลานกางเต็นท์บริเวณฐานปฏิบัติการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในอดีตบริเวณดอยจี๋

นอกจากนี้ภายในอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกินยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปค้นหาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอีกมากมาย




9.ดอยอ่างขาง จ. เชียงใหม่

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โครงการหลวง ท่ามกลางสวนพันธุ์ไม้กับอากาศดีๆ ดอยอ่างขางพร้อมให้คุณไปสัมผัส ทั้งความสวยงามของบรรยากาศ คุณค่าที่ชาวบ้านในท้องถิ่นได้รับจากโครงการหลวงแห่งนี้ ที่ทำให้ชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่น แล้วหันมาปลูกสตรอเบอร์รี่ ชา และไม้ผลเมืองหนาวอื่นๆ แทน

บ้านคุ้ม เป็นหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าสถานีฯ อ่างขางเลย บรรยากาศจะเหมือนเดินอยู่ในเมืองจีน เพราะที่นี่ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ไทใหญ่ และมูเซอดำบางส่วน ที่นี่ยังมีบริการที่พัก และสามารถหาของกินได้มากมาย อาทิ ขาหมูยูนนาน หมันโถวร้อนๆ บะหมี่สดยูนนาน ผลไม้แปรรูป ชาต่างๆ




10.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

ป็นอีกสถานที่ชื่อดังในเมืองไทยที่ว่ากันว่าอากาศดีสุดๆ จนได้รับฉายาว่า "สวิสแลนด์แดนสยาม" หลายคนที่เคยมาพักผ่อนติดอกติดใจจนต้องมาเป็นครั้งที่สอง และในครั้งที่สองเราอยากจะขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในเขตทหารบนยอดเขาค้อที่คุณอาจเคยพลาดไป

และจะเป็นการดีมากหากใครที่ยังคิดเคืองติดใจกับทหารที่มีแต่ข่าวไม่ดีเราจะได้รู้ว่าพวกเขาก็คือคนที่ติดทองอยู่หลังพระทุกที่ทั่วแดนไทย ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยว ความสนุกสนานข้างบนเขาค้อยังมีน้ำตกและแห่ลงแอนเวนเจอร์ที่หลากหลายสไตล์ที่คุณจะได้สัมผัส และเราก็หวังว่าคุณจะไม่พลาดที่จะไปสูดอากาศดีๆ เข้าปอดกันนะ

แนะนำห้องพัก ในจังหวัดเลย

1 .เฮือนไม้ หลานคุณยาย http://lankunyay.hong-pak.com/
2 .เฮือนคุ้มฮัก http://huankumhuk.hong-pak.com/
3 . บ้านเอนกายา 2 http://aingaya2.hong-pak.com/

แนะนำห้องพัก ใน กาญจนบุรี

1 . ธีระกาญจน์ http://teerakhan.hong-pak.com/
2 .หลุบพญารีสอร์ท http://lubphaya.hong-pak.com/

แนะนำห้องพักใน เพชรบูรณ์

1 .ลีลาวดีเพลสhttp://leelawadeeplace.hong-pak.com/
2 .หอพักพรสุวรรณ http://manot.hong-pak.com/

แนะนำห้องพักใน เมืองเชียงใหม่
1 . อรอนงค์แมนชั่น http://onanongmantion.hong-pak.com/
2 . ปฐมพร แฟนซี เฮ้าส์ ถนนแม่โจ้ เชียงใหม่ http://prathomporn.hong-pak.com/
3 .Sannameng Place Apartment http://sannamengplace.hong-pak.com/
4 .บ้านเช่าเชียงใหม่ ถ.เชียงใหม่-หางดง/แก้ว http://kobkaew.hong-pak.com/

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.hong-pak.com

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

##10 สถานที่ชมไฟสวย ๆ ในกรุงเทพฯ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่##


10 สถานที่ชมไฟในกรุงเทพฯ 2557 ใครที่อยากชมสีสันสวยงามของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน ก็อย่าลืมมาแชะภาพสวย ๆ ของแสงไฟจาก 10 สถานที่ชมไฟในกรุงเทพฯ ที่เราแนะนำกัน

ใกล้ถึงสิ้นปีทีไร เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกสุขใจมากเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นสัญญาณแห่งความชื่นชมยินดี การเฉลิมฉลอง และการเริ่มต้นใหม่ ที่สำคัญยังมีการจัดตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความคึกคักส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอีกด้วย กระปุกดอทคอมจึงไม่พลาดที่จะแนะนำ 10 สถานที่สวย ๆ สำหรับชมไฟในกรุงเทพฯ พร้อมกับข้อมูลการเดินทางมาแนะนำกัน ใครที่พร้อมแล้วก็หยิบกล้องคู่ใจตามมาเลยค่ะ

1. สยามพารากอน
สถานที่แรก คือ สยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพฯ ที่สำคัญการเดินทางยังสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีสยาม และเมื่อเดินไปด้านหน้าห้างก็จะเห็นซุ้มของต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาได้อย่างสวยงามเป็นระยะทางกว่าร้อยเมตร อีกทั้งยังมีที่นั่งใต้ซุ้มให้ผู้คนที่ผ่านไป-มาแวะเวียนมานั่งพักพร้อมถ่ายรูปคู่กับซุ้มดังกล่าว เชื่อเลยว่าความระยิบระยับของต้นคริสต์มาสและซุ้มไฟจะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจแน่นอน

2. เซ็นทรัลเวิลด์
หากว่าคุณชมความสวยงามของไฟประดับหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นมาตามทางสกายวอล์กจนมาถึงเซ็นทรัลเวิลด์ก็จะเห็นกับความยิ่งใหญ่ตระการตาของต้นคริสต์มาสยักษ์, กวางเรนเดียร์, ซานตาคลอส และเหล่าสนูปปี้มากมายแบบนับไม่ถ้วย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Universe of Happiness หรือแปลตรงตัวว่า "จักรวาลแห่งความสุข" และแน่นอนว่าหากคุณไปยืนอยู่ตรงนั้น คุณก็จะสัมผัสได้ถึงความสุขและรอยยิ้มของคนรอบข้างที่มาชมความสวยงามของแสงไฟบริเวณนี้

3. อัมรินทร์พลาซ่า
ยังไม่ไปไหนไกลค่ะ เดินข้ามมาอีกฝากฝั่งก็จะเจอกับอัมรินทร์พลาซ่า ห้างสรรพสินค้าบริเวณแยกราชประสงค์ ที่การันตีได้ว่ามันจะทำให้คุณทึ่งในความยิ่งใหญ่อลังการชนิดที่ว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะต้องปลาบปลื้มแน่นอน เพราะมันเป็นที่ตั้งของต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถึง 2 ต้น อีกทั้งยังมีซุ้มต่าง ๆ ให้ออกแอ็คชั่นถ่ายภาพกันได้ไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นซานตาคลอส, กวางเรนเดียร์, ตุ๊กตาหิมะ เรียกว่างานนี้ได้ใจคนทุกเพศทุกวัยไปเต็ม ๆ

4. เซ็นทรัลชิดลม
ข้ามจากฝั่งอัมรินทร์พลาซ่าแลัวเดินย้อนไปทางชิดลมก็จะเจอกับซุ้มวงกลมขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยไฟอย่างสวยงาม ที่สำคัญยังส่องประกายกะพริบเป็นสีสันต่าง ๆ ทั้งสีแดง, สีทอง, สีส้ม และสีฟ้า พร้อมกับคำว่า Let's Celebrate 2015 หรือ "มาฉลองกันเถอะ" นอกจากนี้ความพิเศษของซุ้มวงกลมยังอยู่ที่มันมีทางเข้าไปด้านในเพื่อถ่ายรูปได้ด้วย ใครที่อยากมีภาพสวย ๆ ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับก็ไปกันได้เลย

5. เซ็นทรัลแอมบาสซี
อีกหนึ่งสถานที่ในเครือเซ็นทรัล ก็คือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอมบาสซี ซึ่งมีความพิเศษอยู่ที่ต้นคริสต์มาสจากแท่งไฟ LED ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่ส่องไปตามจังหวะเพลงบรรเลงและเปลี่ยนเป็นสีต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีบ้านหลังเล็กหลังน้อยตั้งเรียงรายกันอยู่ด้านหน้า ซึ่งให้ทั้งความสวยงามและความสว่างสมกับเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้

6. ถนนราชดำเนิน
ถนนราชดำเนินจัดกิจกรรมขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมเพื่อเฉลิมฉลองวันพ่อแห่งชาติและจัดยาวจนกระทั่งสิ้นปี เราจึงเห็นความสวยงามของไฟที่ประดับตามต้นไม้เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ทำให้ถนนสายนี้มีความคึกคักตลอดทั้งเดือนธันวาคมเลยค่ะ ใครที่อยากสัมผัสด้วยตนเองก็เดินทางมาชมกันได้ เพราะนอกจากแสงไฟสวย ๆ ตามท้องถนนแล้ว คุณยังจะได้เห็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและวิวสวย ๆ ของภูเขาทองในยามค่ำคืนด้วย

7. วัดพระแก้ว
ใครที่มาแชะภาพแสงไฟสวย ๆ บริเวณถนนราชดำเนินกันแล้ว ก็อย่าลืมแวะเวียนไปบริเวณท้องสนามหลวงและวัดพระแก้ว ตลอดจนศาลหลักเมือง และยาวไปถึงบริเวณกระทรวงกลาโหม นอกจากแสงไฟที่ประดับตามต้นไม้ตลอดทางเดินแล้ว คุณก็จะได้เห็นสถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ ในอีกมุมหนึ่ง ขอบอกเลยว่าบรรยากาศยามค่ำคืนนั้นคึกคักสุด ๆ เลย

8. พระที่นั่งอนัตสมาคม
พระที่นั่งอนัตสมาคม อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานครก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยแสงไฟประดับตั้งแต่ถนนราชดำเนินนอกไปจนถึงถนนอู่ทอง ลานพระบรมรูปทรงม้า และยาวไปถึงสวนจิตรลดา ก็ทำให้คุณเดินชมไฟไปถ่ายรูปไปแบบไม่มีเบื่อเลย อีกทั้งยังได้ซึมซับความความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรอเนสซองส์ (Neo Renaissance) และนีโอคลาสสิก (Neo classic) ขององค์พระที่นั่งได้อย่างเต็มตาด้วย

9. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
มาถึงสถานที่สุดฮอตริมแม่น้ำเจ้าพระยากันบ้าง นั่นก็คือ เอเชียทีค ที่ซึ่งคุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับวิวสวย ๆ ของชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ริมน้ำบวกกับแสงสีของไฟที่ติดอยู่ทั่วบริเวณท่าเรือ นอกจากนี้ยังมีต้นคริสต์มาสสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองตั้งอยู่ด้วย ใครที่สนใจไปรับลมเย็น ๆ ริมน้ำพร้อมกับชมความสวยงามของแสงไฟไปในตัว ก็สามารถเดินทางไปได้โดยใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน ใช้ทางออก 2 และต่อ Shuttle Boat (ไม่เสียค่าบริการ) ที่ท่าเรือสาทรเพื่อไปยังเอเชียทีคค่ะ

10. เมกะ บางนา

สถานที่สุดท้ายที่เราแนะนำกัน ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเมกะ บางนา ที่มีทั้งต้นคริสต์มาส กวางเรนเดียร์ ซานตาคลอส ตามแบบฉบับการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากนี้ยังพ่วงด้วยกิจกรรมดี ๆ ตลอดทั้งเดือนเพื่อคืนความสุขให้แก่ผู้มาเยือนด้วยคอนเสิร์ตและโชว์พิเศษมากมาย ใครที่สนใจอยากชมทั้งความสวยงามของแสงไฟพร้อมกับชมดนตรีสดอันไพเราะก็เดินทางมาได้ที่เมกะ บางนา ถนนบางนา-ตราด กม.8

****แนะนำห้องพัก โรงแรม มากมายที่นี่ www.Hong-Pak.com
****ค้นหาห้องพักง่ายๆ ในช่วงเทศกาล
 (รูปภาพ 5 รูป)

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บ้านพีรวิทย์ เอแบค บางนา เลขที่ 333 หมู่ที่ 4 ถนนบางนา - ตราด

       
                   
ห้องพักย่านเอแบคบางนา สะอาด สงบ ปลอดภัย ราคาย่อมเยา
บรรยากาศสดชื่น ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์
           
บ้านพีรวิทย์ เอแบค บางนา มีห้องสตูดิโอ ขนาด 29 ตารางเมตร 
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้อง มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมเพรียง เข่น 
 เตียงขนาด 3.5 ฟุต และ 6 ฟุต
 ชั้นวางหนังสือข้างเตียง
 โต๊ะเขียนหนังสือ
 ตู้เสื้อผ้า
 ห้องน้ำในตัว
 ระเบียงส่วนตัว
 อินเตอร์เน็ต
 โทรศัพท์
 เครื่องทำน้ำร้อน
 เครื่องปรับอากาศ
 ตู้เย็น
 ทีวี

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายนอกห้องพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
 ระบบทีวีวงจรปิด
 ที่จอดรถ
 ร้านซักรีด
 มินิมาร์ท       
 ค๊อฟฟี่ช็อป
 ระบบอินเตอร์เน็ต LAN ภายในห้อง 
 ลิฟท์
 ระบบเข้า-ออก โดยคีย์การ์ด
 ระบบเตือนภัยไฟไหม้
 ระบบดับเพลิงตามมาตรฐาน
 บันไดหนีไฟ 2 ทาง









การเดินทาง :
ตั้งอยู่ถ.บางนา-ตราด กม.26 อยู่ในซอยเอแบคบางนา ก่อนถึงปากทางเข้ามหาลัย 400 ม.

ใกล้สถานศึกษา :
มหาวิทยาลัยอัสสัสชัญ (บางนา), มหาวิทยาลัยหัวเฉียว

ใกล้ห้างสรรพสินค้า :
เมกาบางนา, โฮมโปรบางพลี, แมคโครบางพลี,เซ็นทรัลบางนา

อื่น :
ใกล้นิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์ล, นิคมอุตสาหกรรมบางพลี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://baanpirawit.hong-pak.com/ และที่ www.hong-pak.com